ประกาศความเป็นส่วนตัว

 

บริษัท รูเลอร์ คอนซัลติ้ง จำกัด (“บริษัท”) มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แจ้งให้ท่านทราบถึงแนวทางการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านได้ใช้บริการของบริษัทหรือเมื่อท่านได้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไรเมื่อท่านใช้บริการหรือเว็บไซต์ของบริษัท ไม่ว่าจะในนามส่วนบุคคลหรือในนามบริษัทก็ตาม ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทเมื่อท่านสมัครใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเมื่อท่านติดต่อทีมงานของบริษัท รวมทั้งแจ้งให้ท่านทราบถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม เหตุผลในการเก็บรวบรวม วิธีการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้ ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เว็บไซต์นี้เหมาะสำหรับบุคคลอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป บริษัทจะไม่จงใจเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

กรุณาอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ควบคู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขเฉพาะอื่นๆ ที่บริษัทอาจแจ้งให้ท่านทราบเฉพาะเจาะจงเมื่อบริษัททำการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านมีความตระหนักถึงวัตถุประสงค์และวิธีการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านไม่ตกลงยอมรับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ กรุณางดเว้นจากการใช้บริการของบริษัทเนื่องจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินการให้บริการโดยบริษัทแก่ท่าน

1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ จัดเก็บ และถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ เกี่ยวกับท่านซึ่งบริษัทได้แบ่งประเภทไว้ดังนี้

ข้อมูลระบุตัวตน: ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จํากัดเพียง ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ ชื่อผู้ใช้ หรือตัวระบุที่มีลักษณะคล้ายกัน

ข้อมูลติดต่อ: ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จํากัดเพียง ที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงิน ที่อยู่ปัจจุบัน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ตำแหน่งงานและบัญชีโซเชียลมีเดีย

ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ ที่ท่านให้แก่บริษัท: ข้อมูลเหล่านี้รวมถึง ข้อมูลใดๆ ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเกี่ยวกับบุคคลที่บริษัทอาจมีหรืออาจไม่มีความสัมพันธ์ทางกฎหมายโดยตรง เช่น ข้อมูลอัตลักษณ์และข้อมูลการติดต่อ

ข้อมูลการทําธุรกรรม: ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จํากัดเพียง รายละเอียดเกี่ยวกับการชําระเงินให้แก่หรือจากท่าน บัญชีธนาคารและรายละเอียดการชําระเงินผ่านบัตรของท่าน การติดต่อของท่านกับบริษัท และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านได้ซื้อจากบริษัท

ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล: ซึ่งรวมถึงตัวระบุออนไลน์ เลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ประเภทระบบปฏิบัติการข้อมูลเครือข่าย ประเภทและเวอร์ชันของเว็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ตัวระบุอุปกรณ์เฉพาะ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วิดีโอ และการบันทึกเสียง

ข้อมูลโปรไฟล์: ซึ่งรวมถึงรายละเอียดการเข้าสู่ระบบ การซื้อหรือคําสั่งซื้อของท่าน ความสนใจหรือการตั้งค่า ความคิดเห็นหรือการตอบกลับแบบสํารวจของท่าน

ข้อมูลภาพและเสียง: ซึ่งรวมถึงภาพถ่าย บันทึกเสียง และบันทึกภาพเคลื่อนไหวของท่าน โดยบริษัทอาจทำการบันทึกภาพถ่าย เสียง และภาพเคลื่อนไหวของงานอีเว้นท์ การจัดอบรม การจัดเวิร์คช็อป งานสัมมนา และ/หรืองานประชุมที่บริษัทจัดขึ้น (“งานอีเว้นท์”) เพื่อนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท และงานอีเว้นท์อื่นในอนาคต ดังนั้น บริษัทจะทำการบันทึกภาพถ่าย เสียง และภาพเคลื่อนไหวของท่านซึ่งเข้าร่วมงานอีเว้นท์ด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการดำเนินการดังกล่าว เช่น การประกาศให้ทราบบริเวณลงทะเบียนหรือทางเข้างานอีเว้นท์ หากท่านไม่ประสงค์จะให้บริษัททำการบันทึกภาพถ่าย เสียง และภาพเคลื่อนไหวของท่านในงานอีเว้นท์ กรุณาแจ้งบริษัทถึงความประสงค์ดังกล่าว

บริษัทไม่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนใด ๆ เกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ความเชื่อทางศาสนาหรือปรัชญา รสนิยมทางเพศ ความเห็นทางการเมือง ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลทางพันธุกรรมและข้อมูลชีวมิติ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม รวมทั้งข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด

2. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทใช้วิธีการต่างๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้:

  • ผ่านการปฏิสัมพันธ์โดยตรงจากการให้บริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทเมื่อท่าน:
    1. ขอให้บริษัทติดต่อท่านเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของบริษัท;
    2. ซื้อผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท
    3. ใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท
    4. เข้าร่วมงานอีเว้นท์ของบริษัท
    5. แสดงความคิดเห็นต่อการสํารวจของบริษัท หรือ
    6. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท
  • การโต้ตอบอัตโนมัติในเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากอุปกรณ์ดิจิทัลโดยใช้คุกกี้ บันทึกเซิร์ฟเวอร์ หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน

นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงตามที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น ซึ่งรวมถึงบุคคลที่สามที่ท่านได้ยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท

3. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ จัดเก็บ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล“) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์เท่าที่กฎหมายจะอนุญาตให้ทำได้เท่านั้น  บริษัทจะอ้างอิงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อดังต่อไปนี้ (“ฐานการประมวลผลตามกฎหมาย“) เมื่อบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือปฏิบัติตามข้อผูกพันที่บริษัทมีกับท่าน หรือเพื่อดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนที่จะเข้าทำสัญญากับท่าน (“การปฏิบัติตามสัญญา“)
  • เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (“การปฏิบัติตามกฎหมาย“)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (“ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย“)
  • เป็นความยินยอมของท่าน (“ความยินยอม”)

ตารางด้านล่างคือวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและฐานการประมวลผลตามกฎหมายที่บริษัทใช้ในการอ้างอิง

วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานการประมวลผลตามกฎหมาย

เพื่อดำเนินการลงทะเบียนท่านเป็นลูกค้าใหม่ของบริษัท

1)    ข้อมูลระบุตัวตน

2)    ข้อมูลติดต่อ

3)    ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล

4)    ข้อมูลโปรไฟล์

5)    ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ

การปฏิบัติตามสัญญา

เพื่อให้บริการแก่ท่าน

1)     ข้อมูลระบุตัวตน

2)     ข้อมูลติดต่อ

3)     ข้อมูลการทำธุรกรรม

การปฏิบัติตามสัญญา

เพื่อจัดการความสัมพันธ์ของบริษัทกับท่านซึ่งรวมถึง:

1)        แจ้งการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท

2)        ขอให้ท่านให้คํารับรอง

1)     ข้อมูลระบุตัวตน

2)     ข้อมูลติดต่อ

3)     ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล

4)     ข้อมูลโปรไฟล์

การปฏิบัติตามสัญญา

การปฏิบัติตามกฎหมาย

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

ความยินยอม

 

เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ หรือธุรกิจของบริษัท

1)     ข้อมูลการทําธุรกรรม

2)     ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล

3)     ข้อมูลโปรไฟล์

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท และงานอีเว้นท์อื่นในอนาคต บนเว็บไซต์ ช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย และเอกสารการตลาดของบริษัท

1)     ข้อมูลระบุตัวตน

2)     ข้อมูลติดต่อ

3)     ข้อมูลโปรไฟล์

4)     ข้อมูลภาพและเสียง

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการใช้สิทธิของบริษัทภายใต้กฎหมาย

1)     ข้อมูลระบุตัวตน

2)    ข้อมูลติดต่อ

3)    ข้อมูลการทำธุรกรรม

4)    ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล

5)    ข้อมูลโปรไฟล์

6)    ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ ซึ่งรวมถึงการยื่นภาษี

1)     ข้อมูลระบุตัวตน

2)    ข้อมูลติดต่อ

3)    ข้อมูลการทำธุรกรรม

4)    ข้อมูลโปรไฟล์

5)    ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ

การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อดําเนินการใดๆที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ในตารางนี้

1) ข้อมูลระบุตัวตน

2) ข้อมูลติดต่อ

3) ข้อมูลการทําธุรกรรม

4) ข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิตอล

5) ข้อมูลโปรไฟล์

6) ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ

ฐานการประมวลผลฐานเดียวกันกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกันดังกล่าว

บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ เว้นแต่บริษัทมีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด และวัตถุประสงค์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เดิม

ในกรณีที่บริษัทจําเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เดิม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่าน

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลที่สามเท่าที่กฎหมายจะอนุญาตให้ทำได้ รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะกรณีที่บริษัทหรือบุคคลที่สามนั้น

  • มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริการแก่ท่านหรือเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาที่บริษัทมีต่อท่าน ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทได้จัดจ้าง (หากมี) เพื่อช่วยในการให้บริการแก่ท่าน
  • มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะกระทําเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภาษีตามที่กฎหมายกำหนด และ
  • มีเหตุผลที่ชอบธรรมทางธุรกิจที่จะกระทําเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ

5. ลิงก์ของบุคคลที่สาม

เว็บไซต์นี้อาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม ลิงก์เหล่านั้นมีไว้เพื่อความสะดวกและเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการรับรองหรืออนุมัติโดยบริษัทต่อผลิตภัณฑ์ บริการ หรือความคิดเห็นใดๆ ขององค์กรหรือหน่วยงานหรือบุคคลใดๆ บริษัทไม่มีความรับผิดต่อความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายหรือเนื้อหาของเว็บไซต์ภายนอกหรือลิงก์ที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น กรุณาติดต่อเว็บไซต์ภายนอกโดยตรงหากท่านมีคําถามเกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์นั้น

6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่มีความจําเป็นสําหรับบริษัทในการที่จะปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมา ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องด้วย

โดยหลักแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นาน 10 ปีนับตั้งแต่ที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปี หากกฎหมายหรือกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกําหนดไว้

7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนา: ท่านสามารถขอรับสําเนาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งอยู่กับบริษัทและตรวจสอบว่าบริษัทมีการประมวลผลข้อมูลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  • สิทธิในการลบ: ท่านสามารถขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เมื่อบริษัทหมดความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเมื่อท่านใช้สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (โปรดดูด้านล่าง)
  • สิทธิในการคัดค้าน: ท่านสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทอ้างอิงฐานการประมวลผลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (หรือของบุคคลภายนอก) และท่านมีเหตุผลสนับสนุนการคัดค้านดังกล่าวตามกฎหมาย
  • สิทธิในการระงับการประมวลผล: ท่านสามารถระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ เช่น ท่านอาจขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
  • สิทธิในการขอรับข้อมูล: ท่านอาจขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นหากสามารถกระทำได้
  • สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่เคยได้ให้ไว้แก่บริษัทได้ทุกเมื่อสำหรับกิจกรรมที่บริษัทอ้างอิงฐานความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • สิทธิในการร้องเรียน: ท่านอาจยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอำนาจได้ในกรณีที่ท่านเห็นว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

ขอให้ท่านโปรดติดต่อบริษัท หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กําหนดไว้ข้างต้น

โปรดทราบว่าสิทธิดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่สิทธิเด็ดขาด ทั้งนี้ จะต้องมีความสมดุลกันระหว่างข้อกําหนดทางกฎหมายและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

8. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไข การทำลาย หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ บริษัทจํากัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่พนักงาน ตัวแทน ผู้รับเหมา และบุคคลภายนอกอื่นๆ ที่บริษัทจัดจ้างมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่านเท่านั้น บริษัทจัดให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

9. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวและหน้าที่ของท่านในการแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2021 ท่านสามารถขอรับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับก่อนหน้านี้ได้โดยการติดต่อบริษัท โดยบริษัทอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและ/หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงการให้บริการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบโดยการลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท

โปรดแจ้งให้บริษัททราบถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (หากมี) ตลอดระยะเวลาที่คงความสัมพันธ์กับบริษัทเพื่อให้บริษัทสามารถปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

10. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีคําถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่ 0-2016-2850 หรือส่งอีเมลถึงบริษัทที่ contact@dporuler.com

สถานที่ติดต่อ

1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 47 ยูนิต 4703

ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา

เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120

 

 

 

Languages »